ผลงานสำคัญ ของ พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร)

แต่เดิมนั้น เจ้าเมืองสกลนครองค์เก่าได้ตั้งท้าวโง่นคำให้เป็นที่ ท้าวสุริยภักดี กรมการช่วยราชการเมืองสกลนคร ครั้งนั้นท้าวสุริยภักดี (โง่นคำ) ได้นำเลกไปสักแขนที่เมืองยโสธรครั้งหนึ่ง ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเลื่อนเป็นที่ พระศรีสกุลวงศ์ ผู้ช่วยราชการเมืองสกลนคร ได้คุมไพร่ไปเข้ากับกองทัพพระยามหาอำมาตย์รบกับพวกฮ่อที่เมืองนครเวียงจันทน์ค่ายสีฐาน ค่ายวัดจันทน์ จนค่ายแตกแล้วจึงได้ไล่ตามจับฮ่อมาถึงบ้านโพนงาม บ้านน้ำเกลี้ยง จับได้ฮ่อ ๓ คนส่งให้แม่ทัพครั้งหนึ่ง ต่อมาพระศรีสกุลวงศ์ (โง่นคำ) ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเลื่อนเป็นที่ เจ้าราชวงศ์ ตำแหน่งเจ้านายในคณะอาญาสี่ซึ่งเป็นคณะปกครองสูงสุดของหัวเมืองฝ่ายลาว แล้วได้เลื่อนเป็นที่ พระอุปฮาด ผู้ว่าที่เจ้าเมืองสกลนครเพื่อรอเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองสกลนครองค์ต่อไป เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งที่พระอุปฮาด ได้คุมไพร่พลไปเข้ากองทัพพระยาราชวรานุกูลถึงเมืองบริคัณฑนิคม แขวงนครเวียงจันทน์ครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อเจ้าราชวงศ์ (อิน) ผู้เป็นพระบิดาถึงแก่กรรมลง พระยาราชวรานุกูลได้ให้พระอุปฮาด (โง่นคำ) กลับมารักษาบ้านเมืองแทนพระบิดา พระอุปฮาด (โง่นคำ) ได้แต่งกรมการเมืองส่งเสบียงลำเลียงกองทัพช่วยราชการทัพของพระยาราชวรานุกูลครั้งหนึ่ง ได้จัดท้าวเพี้ยกรมการพร้อมกับจมื่นมณเฑียรพิทักษ์ข้าหลวง ไปตั้งประตูด่านทางแขวงเมืองภูวดลสอางของลาวครั้งหนึ่ง และได้ส่งเสบียงลำเลียงกองทัพของพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เมื่อครั้งรบฮ่อที่ทุ่งเชียงคำครั้งหนึ่ง

เมื่อพระอุปฮาด (โง่นคำ) ได้เลื่อนเป็นที่ พระยาประจันตประเทศธานี เจ้าเมืองสกลนครแล้ว ได้จัดเอากระบือ ๒๑ ตัว ส่งขึ้นไปให้พระยาศรีสุริวงศ์ข้าหลวงเมืองเชียงขวางจ่ายให้พวกทำนาครั้งหนึ่ง ได้จัดกรมการท้าวเพี้ยพร้อมกับหลวงณรงค์โยธาข้าหลวง ขึ้นไปปักหลักด่านทางเมืองวังคำและตามไปส่งถึงเมืองนครพนม ต่อมาได้จัดกรมการพร้อมกับหลวงมลโยธานุโยคข้าหลวง ขึ้นไปประจำรักษาด่านอยู่เมืองวังคำ และตามไปส่งถึงเมืองนครพนมด้วยอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาได้ส่งเสบียงลำเลียงแก่หลวงมลโยธานุโยคข้าหลวงถึง ๓ ครั้ง ได้จัดท้าวเพี้ยและพาหนะส่งแก่หม่อมหลวงชื่นและข้าหลวงกองแผนที่ไปทางลำน้ำก่ำครั้ง ๑ จัดท้าวเพี้ยส่งมองสิเออคอมิแซร์ มองสิเออแกว ข้าหลวงฝรั่งเศสกองแผนที่ไปเมืองกาฬสินธุ์ทางหนึ่งและธาตุพนมทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังจัดท้าวเพี้ยส่งพาหนะหม่อมราชวงศ์ชิดและหม่อมราชวงศ์ชื่นไปเมืองหนองหานอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ ได้เกิดศึกสงครามในระหว่างฟากโขงฝั่งซ้าย พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ) ได้จัดให้อุปฮาดเป็นพนักงานเร่งเกวียนโคต่างไปส่งกองทัพที่เมืองนครพนม พร้อมให้ราชวงศ์เป็นพนักงานเร่งเรือบรรทุกลำเลียงไปส่งกองทัพที่เมืองมุกดาหาร เมืองเขมราฐ ให้ราชบุตรเป็นพนักงานเร่งกำลังและทำลูกกระสุนดินดำ สำรวจปืนอาวุธรวบรวมให้แก่พระวิชิตพลหาญผู้ช่วย พระห้าวหาญ พระจันทวงศ์เทพ ท้าวสุริยวงศ์ ไปเข้าไว้ในกองทัพ และให้ราชบุตรเป็นพนักงานทำบัญชีซื้อข้าวของราษฎรมารวมขึ้นฉางไว้สำหรับส่งกองทัพ ให้พระศรีสกุลวงศ์ผู้ช่วย พระขัตติยะ พระวรสาร พระศรีวราช เป็นพนักงานออกไปสำรวจข้าวเมืองขึ้นฉางไว้สำหรับราชการ ครั้นเสด็จราชการทัพแล้ว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตัดทางสายโทรเลขและปลูกพลับพลาไว้ที่เมืองสกลนคร พระยาประจันตประเทศ (โง่นคำ) ได้ให้ราชบุตร พระวิชิตพลหาญผู้ช่วย เป็นผู้คุมไพร่ปลูกพลับพลา ให้พระขัตติยะเป็นพนักงานคุมไพร่ตัดทางสายโทรเลข ตั้งแต่เมืองสกลนครถึงเมืองพรรณานิคม ให้พระวรสารเป็นพนักงานตัดทางสายโทรเลขจากเมืองพรรณานิคมถึงบ้านพันนา และให้พระศรีสกุลวงศ์ผู้ช่วย คุมไร่ตัดทางสายโทรเลขตั้งแต่บ้านพันนาถึงเมืองหนองหาน

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๔ พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ) ได้นำสิ่งของมงคลราชบรรณาการต่างๆ ลงไปทูลเกล้าทูลถวายเพื่อสมโภชพระนครที่กรุงเทพมหานครครั้งหนึ่ง ต่อมา พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้ลงไปรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ณ กรุงเทพมหานคร หลังเสด็จกลับจากประพาสประเทศยุโรปครั้งแรก เมื่อสยามได้จัดหัวเมืองเป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล โดยยกเลิกตำแหน่งเจ้าเมืองและเจ้านายในคณะอาญาสี่แล้ว พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ) ก็ได้รับราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการเมืองตลอดมาจนแก่ชรา จึงได้เปลี่ยนเป็นตำแหน่งที่ปรึกษาราชการเมือง โดยหาได้แสดงความไม่พึงหรือขัดขืนเช่นเดียวกับบรรดาเจ้าเมืองหัวเมืองลาวอื่นๆ [9]

แหล่งที่มา

WikiPedia: พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร) http://bannakeaw.blogspot.com/2010/10/blog-post_29... http://webcache.googleusercontent.com/search http://sakonnakhonguide.com/index.php?name=knowled... http://www.sakonnakhonguide.com/index.php?name=kno... http://www.ubonpra.com/board/index.php?topic=452.0... http://www.komchadluek.net/detail/20100714 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2450/04... http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2457/D/... http://kanchanapisek.or.th/kp8/culture/sgk/file1/p... https://sites.google.com/site/phiphat1234567/thnbd...